วันที่ 2 ก.ย.2568 ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอเก่งกระดูกและข้อ ให้ความรู้เรื่องการดื่มน้ำลดกรดยูริกในเลือด ความว่า ดื่มน้ำมาก ๆ จริงไหม? ช่วยลดกรดยูริกในเลือดได้? “หมอคะ เพื่อนบอกว่าถ้ากรดยูริกสูงให้ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร จะช่วยลดได้ จริงไหมคะ? หรือแค่มโนไปเอง?”


เป็นคำถามจาก คุณจอย วัย 40 ปี ที่เพิ่งตรวจสุขภาพแล้วพบว่ากรดยูริกในเลือดสูงกว่าปกติเล็กน้อย เธอกังวลเพราะคุณพ่อเคยเป็นเก๊าท์ จึงอยากหาวิธีป้องกันไว้ก่อนหมอเลยขออธิบายให้เข้าใจแบบชัดๆ ว่า “น้ำ” มีบทบาทสำคัญกับกรดยูริกอย่างไรบ้างครับ


*กรดยูริกในร่างกายมาจากไหน?*


กรดยูริก เกิดจากการย่อยสลายสารที่เรียกว่า “พิวรีน” ซึ่งพบในอาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ น้ำตาลสูง อาหารทะเล และเบียร์ เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน กรดยูริกจะถูกขับออกทางไต ผ่านทางปัสสาวะ

ดังนั้น ถ้าร่างกายขับกรดยูริกได้น้อย หรือดื่มน้ำน้อย กรดยูริกจะค้างในเลือดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจสะสมตามข้อได้


*ดื่มน้ำมากขึ้น ช่วยลดกรดยูริกได้จริงไหม?*


จริงครับ! การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกายได้มากขึ้นผ่านทางปัสสาวะ เมื่อขับออกได้มากขึ้น ระดับกรดยูริกในเลือดก็จะลดลงตามธรรมชาติ




หมอแนะ จริงไหม ดื่มน้ำมากๆ ช่วยลดกรดยูริกในเลือดได้ ชี้เป็นวิธีปลอดภัยและง่ายที่สุด ช่วยลดกรดยูริกในเลือด และลดความเสี่ยงของโรคเก๊าท์ในระยะยาว


วันที่ 2 ก.ย.2568 ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอเก่งกระดูกและข้อ ให้ความรู้เรื่องการดื่มน้ำลดกรดยูริกในเลือด ความว่า ดื่มน้ำมาก ๆ จริงไหม? ช่วยลดกรดยูริกในเลือดได้? “หมอคะ เพื่อนบอกว่าถ้ากรดยูริกสูงให้ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร จะช่วยลดได้ จริงไหมคะ? หรือแค่มโนไปเอง?”


เป็นคำถามจาก คุณจอย วัย 40 ปี ที่เพิ่งตรวจสุขภาพแล้วพบว่ากรดยูริกในเลือดสูงกว่าปกติเล็กน้อย เธอกังวลเพราะคุณพ่อเคยเป็นเก๊าท์ จึงอยากหาวิธีป้องกันไว้ก่อน



หมอเลยขออธิบายให้เข้าใจแบบชัดๆ ว่า “น้ำ” มีบทบาทสำคัญกับกรดยูริกอย่างไรบ้างครับ


*กรดยูริกในร่างกายมาจากไหน?*


กรดยูริก เกิดจากการย่อยสลายสารที่เรียกว่า “พิวรีน” ซึ่งพบในอาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ น้ำตาลสูง อาหารทะเล และเบียร์ เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน กรดยูริกจะถูกขับออกทางไต ผ่านทางปัสสาวะ

ดังนั้น ถ้าร่างกายขับกรดยูริกได้น้อย หรือดื่มน้ำน้อย กรดยูริกจะค้างในเลือดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจสะสมตามข้อได้


*ดื่มน้ำมากขึ้น ช่วยลดกรดยูริกได้จริงไหม?*


จริงครับ! การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกายได้มากขึ้นผ่านทางปัสสาวะ เมื่อขับออกได้มากขึ้น ระดับกรดยูริกในเลือดก็จะลดลงตามธรรมชาติ



หลายงานวิจัยสนับสนุนว่า ผู้ที่ดื่มน้ำวันละ 2–3 ลิตร มีโอกาสเกิดอาการเก๊าท์น้อยกว่าคนที่ดื่มน้ำน้อย


*แล้วต้องดื่มน้ำวันละเท่าไร?*


สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป แนะนำให้ดื่มน้ำวันละประมาณ 2–3 ลิตร หรือเทียบเท่ากับ 8–12 แก้ว ต่อวัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและสภาพอากาศ


เคล็ดลับในการดื่มน้ำ


ไม่ต้องดื่มทีเดียวหมด ดื่มเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน

ถ้าปัสสาวะใส แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ

ผู้ที่ออกกำลังกายหรืออยู่กลางแจ้ง ควรดื่มมากขึ้นอีก

*ดื่มน้ำมากเกินไปได้ไหม?*


ทุกอย่างต้องพอดีครับ แม้การดื่มน้ำจะดี แต่ถ้าดื่มมากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ (เช่น ดื่ม 5 ลิตรในไม่กี่ชั่วโมง) อาจทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไต

ทางที่ดีคือ ค่อยๆ ดื่มน้ำกระจายตลอดทั้งวันครับ


*หมอสรุปว่า*


ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เป็นหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยและง่ายที่สุดในการช่วยลดกรดยูริกในเลือด และลดความเสี่ยงของโรคเก๊าท์ในระยะยาว


ไม่ต้องรอให้ปวดข้อก่อน ถึงจะเริ่มดูแลตัวเองนะครับ เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ อย่างการดื่มน้ำ ก็ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้แล้วครับ


บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์